ติดตามการตั้งครรภ์สัปดาห์ต่อสัปดาห์เกี่ยวกับพัฒนาการของลูกในท้อง การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย อาการคนท้อง รวมถึงสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในขณะที่ท้อง
ถึงแม้ในตอนนี้จะถือได้ว่าเป็นสัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ แต่การปฏิสนธิของตัวอ่อนจะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่า 2 - 3 สัปดาห์ข้างหน้า
การไข่ตกอาจเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ ซึ่งหมายความว่าการตั้งครรภ์ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว
คุณแม่อาจจะยังไม่สังเกตเห็นอาการหรือการเปลี่ยนแปลง แต่คุณแม่อาจกำลังตั้งครรภ์อยู่ ขอแสดงความยินดีด้วย!
เมื่อไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิฝังตัวที่ผนังมดลูก ร่างกายของคุณแม่จะเริ่มหลั่งฮอร์โมนตั้งครรภ์ ทำให้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์อาจสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้แล้ว
ในสัปดาห์นี้ลูกได้เข้าสู่ระยะของการเป็นตัวอ่อนแล้ว จากการแบ่งเซลล์และการขยับขยายทำให้เขาดูเหมือนมนุษย์ตัวน้อยเข้าไปทุกที
ในสัปดาห์นี้ หัวใจของลูกเริ่มจะเต้นแล้ว อวัยวะบนใบหน้าอย่าง แก้ม คาง และกรามเริ่มพัฒนาแล้วเช่นกัน ส่วนตาและจมูกจะยังเห็นเป็นเพียงจุดเล็ก ๆ
ศีรษะของลูกจะมีขนาดใหญ่มากเมื่อเทียบกับส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย เนื่องจากสมองของลูกกำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 8 เป็นต้นไป ลูกจะเริ่มตอบสนองได้แล้วเมื่อถูกสัมผัส
ในสัปดาห์นี้ อวัยวะภายในของลูกเริ่มปรากฏให้เห็นแล้ว และในการพบคุณหมอครั้งถัดไป คุณแม่จะได้ยินเสียงหัวใจของลูกเต้นอีกด้วย
ลูกกำลังเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของระยะตัวอ่อนแล้ว ข่าวดีสำหรับคุณแม่คือหลังจากสิ้นสุดระยะนี้ โอกาสในการแท้งบุตรจะลดลง
ต่อจากนี้ลูกจะถูกเรียกว่าทารกแล้ว เพราะเขาได้ผ่านระยะของการเป็นตัวอ่อนและเข้าสู่การเป็นทารกอย่างสมบูรณ์ ซึ่งอวัยวะสำคัญทุกส่วนของเขาได้พัฒนาขึ้นแล้ว
ในสัปดาห์นี้ลูกเริ่มที่จะงอนิ้วและกำมือได้แล้ว
ในสัปดาห์นี้ กระดูกของลูกเริ่มจะแข็งแรงขึ้นแล้ว ส่วนคุณแม่จะเริ่มมีอาการที่พบได้ในไตรมาสที่สองมากขึ้น อย่างอาการท้องผูก ความอยากทานอาหารแปลก ๆ
คุณแม่เริ่มเข้าสู่การตั้งครรภ์ในไตรมาสที่ 2 แล้ว ในระยะนี้ลูกจะเริ่มพัฒนาระบบภูมิคุ้มกัน
ใบหน้าของลูกเริ่มดูเหมือนเด็กน้อยน่ารักมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนคุณแม่อาจมีอาการคัดจมูกหรือเลือดกำเดาไหลได้เนื่องจากในร่างกายคุณแม่มีปริมาณเลือดเพิ่มขึ้น
ลูกกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและดิ้นไปมา ปริมาณเลือดที่เพิ่มขึ้นจะเตรียมพร้อมคุณแม่สำหรับการให้นมลูกในอนาคต
ในสัปดาห์นี้ลูกจะมีขนาดตัวใหญ่กว่ารกแล้ว ส่วนตัวคุณแม่อาจมีอาการเหงื่อออกมากกว่าปกติได้
ลูกจะสามารถได้ยินเสียงของคุณแม่ได้แล้วและคุณแม่เองก็สามารถได้ยินเสียงหัวใจของเขาเต้นผ่านหูฟังแพทย์ได้แล้วเช่นกัน
ลูกจะสร้างไขสีขาวขึ้นมาเคลือบร่างกาย ไขสีขาวนั้นปกป้องและรักษาความชุ่มชื้นบนผิวของเขาขณะคลอด และจะมีประโยชน์ต่อตัวลูกน้อยต่ออีกเมื่อคลอดออกมาแล้ว
สัปดาห์ที่ 20 ถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการตั้งครรภ์ เพราะนั่นหมายความว่าคุณแม่และ ลูกได้เดินด้วยกันมาถึงครึ่งทางแล้ว
ลูกสามารถดูดนิ้วมือได้แล้ว ส่วนคุณแม่อาจมีปัญหาเหงือกบวมหรือปัญหาเกี่ยวกับเหงือกเพิ่มขึ้น
ลูกใช้เวลากว่า 14 ชั่วโมงในแต่ละวันเพื่อนอนหลับ และใช้เวลาที่เหลือกับการฝึกเคลื่อนไหว คุณแม่อาจมีอาการเจ็บบริเวณบั้นท้ายที่เรียกว่า ริดสีดวงทวาร
ในสัปดาห์นี้ ใบหน้าของลูกจะพัฒนาได้สมบูรณ์แล้ว คุณแม่บางท่านอาจมีอาการเจ็บเตือนหรือ Braxton-Hicks contraction เป็นครั้งแรก
ในระยะนี้ลูกเริ่มมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อเสียงภายนอก เช่น กะพริบตาเมื่อคุณแม่ปรบมือดัง ๆ ส่วนท้องของคุณแม่จะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
ในตอนนี้ลูกสามารถตอบสนองต่อเสียงที่เขาคุ้นเคยได้แล้ว เช่น เสียงของคุณแม่
ลูกน่าจะอยู่ในตำแหน่งกลับหัว ซึ่งเป็นตำแหน่งเดียวกับตอนคลอดแล้ว คุณแม่อาจหลับไม่สนิทเพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายและครรภ์ที่โตขึ้นเรื่อย ๆ
สัปดาห์นี้ถือเป็นสัปดาห์สุดท้ายในไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์แล้ว ในตอนนี้สมองของลูกจะเป็นส่วนที่พัฒนาได้เร็วกว่าส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย
ยินดีด้วย! คุณแม่ได้เข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ของการตั้งครรภ์แล้ว! ตอนนี้ลูกสามารถควบคุมอุณหภูมิร่างกายได้ และกำลังเริ่มฝึกหายใจ อีกสองสัญญาณที่บ่งบอกว่า
ตอนนี้ลูกกำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเขาทั้งใหญ่ขึ้นและแข็งแรงขึ้นด้วย โดยกล้ามเนื้อในร่างกายกับปอดก็ใกล้ที่จะสมบูรณ์แล้ว
ตอนนี้ลูกน่าจะพลิกตัวไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะต่อการคลอดตามธรรมชาติแล้ว
ลูกสามารถหันศีรษะได้แล้ว และอาจหันเพื่อตอบสนองต่อเสียงของคุณแม่ก็ได้ ในตอนนี้ ถ้าคุณแม่มีอาการ Broxton-Hicks contraction หรืออาการปวดบีบแบบหลอกอยู่
ลูกน่าจะอยู่ในตำแหน่งกลับหัวแล้ว และศีรษะของเขาจะเคลื่อนเข้ามาอยู่ใกล้บริเวณปากมดลูกมากขึ้น
ในตอนนี้ลูกสามารถเปิดตาตอนตื่นและหลับตาตอนหลับได้แล้ว เพราะลูกมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ครรภ์ของคุณแม่เองก็ใหญ่ขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
ปอด สมอง และระบบประสาทส่วนกลางของลูกพัฒนาจนใกล้จะสมบูรณ์แล้ว และเริ่มเคลื่อนศีรษะไปใกล้ปากมดลูกมากขึ้น อาการต่าง ๆ
กระดูกและอวัยวะส่วนใหญ่ของลูกพัฒนาจนใกล้จะสมบูรณ์แล้ว ส่วนคุณแม่อาจรู้สึกถึงการบีบตัวของมดลูกบ่อยขึ้น และมีตกขาวเพิ่มขึ้นด้วย
ในสัปดาห์นี้ปอดของลูกพัฒนาจนสมบูรณ์ และต่อจากนี้เขาจะสามารถหายใจได้ด้วยตัวเองแล้ว
อวัยวะทุกระบบในร่างกายของ ลูก ถูกพัฒนาจนสมบูรณ์ ทำให้เขาพร้อมที่จะออกมาลืมตาดูโลกได้อย่างปลอดภัยแล้ว ในขณะเดียวกันคุณแม่อาจมีเลือดปนออกมากับตกขาวได้
ดวงตาและเส้นผมของลูกเริ่มมีการสะสมของเม็ดสีแล้ว ปอดของเขาเองก็ยังผลิตสารลดแรงตึงผิวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
ขอแสดงความยินดีด้วย! ตอนนี้ลูกมีอายุครรภ์ครบกำหนดแล้ว! ตอนนี้คุณแม่สามารถช่วยกระตุ้นให้ลูกอยู่ในท่าพร้อมคลอดได้โดยการเดินออกกำลังกายช้า ๆ
ขอแสดงความยินดีกับคุณแม่ด้วย เพราะตอนนี้ลูกได้เติบโตจนมีร่างกายที่สมบูรณ์แล้ว และเขาพร้อมแล้วที่จะออกมาเจอคุณแม่
จนถึงสัปดาห์นี้ หากคุณแม่ยังไม่คลอดนั้นไม่ได้บ่งบอกถึงความผิดปกติใด ๆ และแน่นอนว่าลูกกำลังมีความสุขกับการอยู่ในครรภ์ของคุณแม่